Powered By Blogger

วันศุกร์

เกร็ดความรู้เรื่องกินเจ



oishifood.อาหารอร่อย
กับเคล็ดลับคู่ครัว กับ "เกร็ดความรู้เรื่อง กินเจ" กินเจ เป็นคำที่คุ้นหูกันมากสำหรับบรรดาสาธุชนใฝ่ใจในการปฏิบัติธรรมทั้งหลาย แต่สำหรับคนทั่วไปส่วนใหญ่ยัีงคงคิดกันไปว่า การกินเจเป็นเรื่องของคนที่เชื่อบาปบุญมากกว่า จะเห็นว่าแท้จริงแล้วการกินเจเป็นเรื่องของเหตุและผลที่ถูกต้องและดีงาม

เกร็ดความรู้เรื่อง กินเจ

ดังคำกล่าวว่า "คนเราจะยืนได้ ขาทั้งสองต้องแข็งแรงเสียก่อน" สิ่งสำคัญสองประการที่จะช่วยเหลือค้ำจุนให้เรามีรากฐานที่มั่นคงได้แก่
  • "ความรู้ "เราต้องศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่จะปฏิบัติให้ดีเสียก่อน โดยอาศัียการได้ยิน ได้อ่าน มามากพอสมควร

  • "สติปัญญา" เราต้องใช้สติปัญญาเข้าไปพิจารณาความรู้เหล่านั้นอย่างรอบคอบ จนบังเกิดความเข้าใจกระจ่างชัดถึงเหตุและผล โดยถูกต้องถ่องแท้ หากจะลงมือปฏิบัติการใดๆ โดยขาดทั้งความรู้และสติปัญญาพิจารพิจารณา ก็ยากที่จะสำเร็จลุล่วงไปได้ "เมื่อไม่ศึกษาก็ไม่รู้ รู้แล้วไม่พิจารณาก็ไม่เข้าใจ" การกินเจเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน ผู้ที่ได้ปฏิบัติแล้วเท่านั้นจึงจะประจักษ์แจ้งถึงคุณวิเศษ อันล้ำเลิศได้ด้วยตนเอง


ความหมายของคำว่า "เจ"


คำว่า "เจ" ในภาษาจีนมีความหมายทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานว่า "อุโบสถ" คำว่า "กินเจ" ตามความหมายที่แท้จริงคือการรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน ดังเช่นที่ชาวพุทธในประเทศไทยถือ "อุโบสถศีล" หรือ "รักษาศีล 8" จะไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว แต่เนื่องจากการถืออุโบสถศีลของชาวพุทธฝ่ายมหายานไม่กินเนื้อสัตว์ จึงนิยมเรียก "การไม่กินเนื้อสัตว์ " ไปรวมกับคำว่า "กินเจ" ซึ่งเป็นการถือ


"คนกินเจ" มิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่คนที่กินเจ ยังต้องดำรงตนในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์สะอาด งดงามทั้งกาย วาจา ใจ เป็นการถือศีลบำเพ็ญธรรมไปด้วยพร้อมกัน เช่นนี้จึงเรียกว่า การกินเจที่แท้จริง ดังนั้น จึงได้ยินคำคล้องจอง "ถือศีลกินเจ" จึงนับว่ามีความหมายสมบูรณ์ครบถ้วนอยู่ในตัวเองแล้ว


ตามร้านขาย "อาหารเจ" เราจะพบเห็นตัวอักษร คำนี้อ่าน ไจ (เจ) แปลว่า ไม่มีคาว เขียนด้วยสีแดงบนพื้นสีเหลืองเสมอ ในช่วงเทศกาลกินเจเดือน 9 จะเห็นตัวอักษรนี้เขียนบนธงสีเหลือง ปักตามแผงอาหารเจ ชาวจีนถือว่าสีแดงเป็นสีแห่งสิริมงคลแก่ชีิวิต สีเหลืองเป็นสีของผู้ทรงศีล


ดังนั้นผู้ตั้งใจถือศีลบำเพ็ญตนให้บริสุทธิ์ ตัวอักษรนี้ย่อมเป็นเครื่องหมายเตือนสติให้ระลึกเสมอว่า "การกินเจงดเว้นเนื้อสัตว์ของคาวคือ การปฏิบัติธรรม รักษาศีลของธรรม รักษาศีลความเป็นมนุษย์ เป็นการเจริญเมตตากรุณาธรรมโดยแท้


รู้และเข้าใจในการกินเจอย่างถูกต้อง
อาหารเจ เป็นอาหารที่ปรุงขึ้นมาจากพืชผักธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีเนื้อสัตว์ปะปน และที่สำคัญต้องไม่ปรุงด้วย

ผักฉุนทั้ง 5 ได้แก่

  • กระเทียม (หมายถึงรวมไปถึง หัวกระเทียม ต้นกระเทียม)
  • หัวหอม (หมายถึงรวมไปถึง ต้นหอม ใบหอม หอมแดง หอมขาว หอมหัวใหญ่)
  • หลักเกียว (คือ กระเทียมโทนจีน ลักษณะคล้ายหัวกระเทียม แต่มีขนาดเล็กและยาวกว่า ในประเทศไทยไม่พบว่าปลูกแพร่หลาย)
  • กุ้ยฉ่าย (ใบคล้ายหอม แต่แบนและเล็กกว่า)
  • ใบยาสูบ (บุหรี่ ยาเส้น ของเสพติดมึนเมา)


ผักดังกล่าวเหล่านี้ เป็นผักที่มีรสหนัก กลิ่นเหม็นคาว รุนแรง นอกจากนี้ยังมีพิษที่ทำลายพลังธาตุทั้ง 5 ในร่างกาย เป็นมูลเหตุให้อวัยวะทั้ง 5 ทำงานไม่ปกติ สำหรับผู้ปฏิบัติสมาธิฝึกจิต ไม่ควรรับประทานเป็นอย่างยิ่ง เพราะผักดังกล่าวมีฤทธิ์กระตุ้นจิตใจอารมณ์เร่าร้อนใจ หงุดหงิดง่าย และยังทำให้พลังธาตุในกายรวมตัวกันได้ยาก เพราะฉะนั้นโดยหลักเกณฑ์ที่มีมาครั้งบรรพกาลกล่าวได้ว่า อาหารเจ จึงเป็นอาหารที่ปรุงและรับประทานตามหลักเวชศาสตร์และเภสัชศาสตร์โบราณของจีนนั่นเอง



oishifood.อาหารอร่อย
กับเคล็ดลับคู่ครัว กับ "เกร็ดความรู้เรื่องกินเจ" เพื่อนๆ คงรู้แล้วนะคะ การกินเจคือ การไม่กินเนื้อสัตว์ รวมถึงการถือศีลไปด้วย และยังมีผักกลิ่นฉุนทั้ง 5 ที่ควรรู้ว่าเป็นข้อห้ามในการกินอาหารเจคะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม